Featured News
Posts List
Posts Slider
Health
-
กินกลูต้าไธโอนให้ขาว ทำได้จริงหรือ… ?
กินกลูต้าไธโอนให้ขาว ทำได้จริงหรือ… ?
กลูต้าไธโอน กินแล้วขาวจริงหรือ มารู้จักกลูต้าฯ ให้มากขึ้น กับกระแสที่พูดถึงกันมาหลายปี ซึ่งคำถามในเวลานี้คือ มันดีจริงหรือ ?
ทุกวันนี้ความขาวกลายเป็นมาตรฐานความงามของสาวไทยไปแล้ว แต่ไม่ใช่แค่ขาวธรรมดา ต้องขอขาววิ้ง, ขาวอมชมพู, ขาวออร่า และขาวโอโม่แบบดาราสาวเกาหลี ซึ่งวิธีทำให้ขาวก็รุดหน้าตามเทคโนโลยีที่อะไรก็ได้ขอให้ขาวไวที่สุด ทางลัดอย่างการกินอาหารเสริมจนกระทั่งถึงขั้นฉีดสารอันจะเรียกว่ายาทางการแพทย์ก็ได้นั้น จึงกลายเป็นที่นิยมของสาวไทยยุคนี้อย่างมาก และกลูต้าไธโอน (Glutathione) ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่หาซื้อกันมาทำให้ผิวขาวได้ตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีข่าวฉีดสารแล้วช็อกเสียชีวิต หรือราคากลูต้าฯ บางตัวที่แพงมาก ซึ่งไม่รู้ด้วยซ้ำว่าของจริงหรือไม่ แต่สาวไทยตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงวัยทำงานก็ยังติดต่อขอซื้อผ่านทางโซเชียลมีเดียกันง่าย ๆ เพราะคนที่ใช้ได้ผลมีมากกว่าคนที่ผิดหวัง…แล้วเรื่องทั้งหมดที่ว่ามาเป็นความจริงอย่างนั้นหรือ นิตยสาร Lisa ขอพาไปเคลียร์เรื่องนี้
กลูต้าไธโอน กินแล้วขาวจริงหรือ มารู้จักกลูต้าฯ ให้มากขึ้น กับกระแสที่พูดถึงกันมาหลายปี ซึ่งคำถามในเวลานี้คือ มันดีจริงหรือ ?
กลูต้าไธโอน คือะไร รักษาโรคอะไร
จะใช้กลูต้าฯ ก็ควรรู้จักกันหน่อยว่ากลูต้าฯ เป็นโปรตีนขนาดเล็กที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิดคือ ซิสเทอีน (Cysteine), กลูตามิค (Glutamic Acid) และไกลซีน (Glycine) พบได้ทุกเซลล์ในร่างกาย มีบทบาทสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึมของเซลล์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันความเสื่อมของเซลล์ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยตับในการขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
ทางการแพทย์มีการนำกลูต้าฯ มาศึกษา และใช้เสริมการรักษาโรคอย่างมะเร็ง ถุงลมโป่งพอง พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ โรคตับ เอดส์ เป็นต้น หลังพบว่าผู้ป่วยโรคเหล่านี้จะมีระดับกลูต้าฯ ลดลง อย่างไรก็ตามหลังนำไปใช้กับผู้ป่วยผลปรากฏว่า พวกเขามีผิวขาวขึ้น ! ด้วยคุณสมบัติทางอ้อมที่ไปยับยั้งการทำงานของเซลล์เม็ดสีนี่เองจึงเป็นที่มาของการนำกลูต้าฯ มาใช้ในวงการความงาม
สำหรับประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อนุญาตให้จำหน่ายได้เฉพาะรูปแบบรับประทาน (กรดอะมิโน) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและครีมทาผิวเท่านั้น ส่วนรูปแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดยังไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ เนื่องจากยังไม่มีข้อมูลความปลอดภัยที่เพียงพอ
กระนั้นก็ตาม ประสิทธิภาพและประโยชน์ของกลูต้าฯ ในการทำให้ผิวขาวก็ยังไม่มีผลทางวิทยาศาสตร์รองรับหรือยืนยัน จึงไม่น่าแปลกใจที่กลูต้าฯ ไม่ผ่านการรับรองข้อบ่งใช้โดยองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาว่าทำให้ผิวขาวได้ แต่ที่แน่นอนก็คือ การกินกลูต้าฯ โดยตรงแทบจะไม่ให้ผลอะไรเลย ส่วนการฉีดเข้าเส้นเลือดหรือกล้ามเนื้อก็เสี่ยงต่อชีวิตที่ไม่คุ้มกัน เราเชื่อว่า สาว Lisa ก็รักสุขภาพ ไม่อยากพาตัวเองไปเสี่ยงเหมือนกัน จริงไหม ?
กินกลูต้าฯ ขาวไหม
แพทย์และเภสัชกรต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การกินกลูต้าฯ โดยตรงให้ผลไม่มากไปกว่า “สูญ” คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ให้ข้อมูลไว้ในเว็บไซต์ว่า กลูต้าฯ สามารถถูกทำลายได้ในทางเดินอาหารของมนุษย์
ขณะที่ นพ. สมนึก อมรสิริพาณิชย์ แพทย์อเมริกันบอร์ดทางด้านเส้นผม ผิวหนัง/เลเซอร์ บอกว่า การกินสารกลูต้าฯ โดยตรงจะไม่สามารถดูดซึมได้ดีเท่าที่ควร การกินอาหารที่มีสารวัตถุดิบอย่าง N-Acetyl Cysteine กลับช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกลูต้าฯ เองได้ดีกว่า และสารนี้มีอยู่ในอาหารอย่างโยเกิร์ต กราโนล่า ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี และคอตเทจชีส หรือจะกินสารนี้ในรูปแบบเม็ดอาหารเสริมก็ได้ ซึ่งสอดคล้องกับที่ Mark Hyman เขียนไว้ในเว็บข่าว Huffingtonpost ตั้งแต่เมื่อกลางปี 2010 ว่า หากร่างกายย่อยโปรตีน มันจะไม่ได้ผลหากเรากินกลูต้าฯ โดยตรงซึ่งก็เป็นโปรตีนเช่นกัน
กินอย่างไร ขาวได้จริง
เขายังให้เคล็ดลับ 4 ข้อในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกลูต้าฯ เพื่อสุขภาพที่ดี (แต่เราหวังผลมากกว่านั้นคือเรื่องความขาวออร่านั่นเอง) นั่นก็คือ
หมั่นกินอาหารที่อุดมด้วยซัลเฟอร์อย่างกระเทียม หัวหอม และ ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ บรอกโคลี คะน้า ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี วอเตอร์เครส เป็นต้น
กินเวย์โปรตีนประเภท Bioactive ซึ่งเป็นแหล่งกรดอะมิโนซิสเทอีน
ออกกำลังเป็นประจำครั้งละ 50 นาที 3 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยแอโรบิกบำรุงหัวใจ 30 นาที เช่น เดินเร็ว จ็อกกิ้ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน สลับกันไป และออกกำลังเสริมความแข็งแรงของร่างกายด้วยการยกเวตอีก 20 นาที
กินอาหารเสริมอย่าง N-AcetylCysteine, Alpha Lipoic Acid, วิตามินบี 6 และ 12, ซีลีเนียม, วิตามินซีและอี และ Milk Thistle ถึงตรงนี้ก็อาจจะมีคนแย้งว่าเคยกินกลูต้าฯ แล้วได้ผลจริง หรือเพื่อนกินแล้วขาวมาก ถ้าอย่างนั้นคงต้องถามกลับว่ามีการดูแลตัวเองด้านอื่นร่วมด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนั้นเครียดน้อยลง และพักผ่อนเพียงพอด้วยใช่มั้ย เพราะความเครียดมีผลต่อกลูต้าฯ ที่ลดลงเช่นกัน
ที่สำคัญความขาวที่เห็นนั้นดูเป็นธรรมชาติดีหรือไม่ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าเราต้องพึ่งยากลูต้าฯ ไปตลอด การบริโภคอะไรที่มากไป โดยเฉพาะเคมีภัณฑ์ด้วยแล้ว ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวแน่ หันมาเสริมความงามของผิวพรรณด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำ พักผ่อน และไม่เครียดกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ จะดีกว่า รับรองว่ากลูต้าฯ ในร่างกายจะผลิตแทบไม่ทัน และมากกว่านั้น ยอมรับสีผิวที่เกิดจากเมลานินตามธรรมชาติแล้วสวยในแบบของเรากันเถอะ
Tip : หากไม่อยากเสี่ยงกับวิตามินเสริมที่บอกว่ากินแล้วขาว ควรเลี่ยงการสั่งซื้อทางออนไลน์ต่าง ๆ และดูฉลากที่มี อย. ให้การรับรองด้วย
ที่มาข้อมูล : www.kapook.com
หากสนใจเรื่องราวอื่น ๆ สามารถติดตามอ่านต่อได้ที่ hudsonaudioimports.com
Economy
-
TIA จัดตั้ง ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุน
TIA จัดตั้ง ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฟ้องคดีแบบกลุ่ม
สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ผนึกกำลัง สภาทนายความ จัดตั้ง ศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม – Class Action รองรับการหลอกลวงและฉ้อฉลมนุษย์ จนเกิดความเสียหายให้กับผู้ลงทุนรายบุคคล หรือรายย่อย
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 66 นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย หรือ TIA กล่าวว่า ทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เตรียมการจัดตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ในการฟ้องคดีแบบกลุ่ม – Class Action เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2558 ว่าด้วยการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้ว เมื่อ วันที่ 8 ธ.ค. 58 มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติชัดเจนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่มีกฎหมายแล้วแต่ยังไม่เกิดการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรม ในทางกลับกันยังพบว่าสถิติของผู้กระทำความผิด มีจำนวนมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะกรณี การมีภัยในตลาดทุน โดยเฉพาะการฉ้อฉลที่เกิดจากฝีมือของมนุษย์ จนเกิดความเสียหายให้กับผู้ลงทุนรายบุคคล หรือรายย่อย อย่างกว้างขวาง
นอกจากนี้ จากผลการวิจัย ของคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า
ปัจจัยเหตุส่วนหนึ่ง มาจากการเริ่มต้นคดีความของทนายความที่จะเป็นผู้รวบรวมข้อมูลอันเป็นสารตั้งต้นของการเดินทางตามกระบวนการยุติธรรมนั้น ยังอาจต้องเติมความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับธุรกิจหลักทรัพย์ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเยียวยาผู้เสียหายในการดังกล่าว
ดังนั้นทางสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยจึงได้ ผนึกความร่วมมือกับ สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดหลักสูตรให้กับสมาชิกของสภาฯ ที่กระจายกันอยู่ทั่วประเทศ กว่า 80,000 บาท ได้อบรมและเพิ่มความรู้คดีที่เกี่ยวกับตลาดทุน
“คดีเรื่องการฟ้องคดีแบบกลุ่ม เป็นเรื่องใหม่ จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ประสบการณ์ ความรู้ความคิดเห็น จากหลากหลายฝ่าย มาช่วยกันต่อเติม ตกผลึก และนำไปสู่การยกร่าง ศูนย์ฯ อย่างเป็น รูปธรรมได้ในอนาคต และเป็นความร่วมมือที่จะนำไปสู่มรรคผล ของการบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้ง ช่วยทำให้เกิดบรรยากาศ แห่งการมีเสถียรภาพด้านการลงทุน บนหลักการ มีธรรมาภิบาลที่ดีได้อีกทางหนึ่ง”
ด้าน ดร.วิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า นับเป็นเรื่องใหม่ ของวิชาชีพทนายความ ในการเพิ่มความรู้ เติมประสบการณ์ความเป็นมืออาชีพ ด้านคดีความที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน หรือตลาดหุ้น ที่ซื้อขายกันอยู่ทุกวัน
เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นกับพี่น้องประชาชน-นักลงทุน อาชีพทนายความ ย่อมเป็นที่พึ่ง ในการแสวงหาความยุติธรรม และการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ในรูปแบบต่างๆ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ตรงกับอรรถพจน์การทำงานของสภาทนายฯ อีกด้วย
ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th
ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th
สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : hudsonaudioimports.com
Latest News
รถปี 2023 ของ Ferrari ถูกวิจารณ์จาก Leclerc และ Sainz
รถปี 2023 ของ Ferrari ถูก...
Promare ไม่ได้สร้างวงล้อขึ้นใหม่เมื่อพูดถึงเรื่องราวของมัน
Promare Review – ชัยชนะขอ...